ดอกบัว ดอกไม้ไหว้พระที่เราคุ้นเคยกันดีเพราะอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนไทยมาช้านาน แต่จริงๆ แล้วชนิดของบัวนั้นไม่ได้มีแค่ที่เรานำมาไหว้พระเท่านั้น เพราะยังมีพันธุ์อื่นๆ ที่พบได้ในไทยอีกด้วย วันนี้ ShopBack Blog จะพาทุกคนไปรู้จักกับสายพันธุ์บัวชนิดอื่นๆ กันว่าดอกบัวมีกี่ชนิดและมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ShopBack ชวนฟัง : “Blog เล่า” ช่องที่จะพาคุณฟัง เรื่อง Unseen ครอบจักรวาล ที่คุณควรจะรู้ แต่ยังไม่รู้! ❤︎ ฟังสบาย Unseen ได้ทุกเดือนที่ Youtube : Blog เล่า ❤︎ อัปเดตเรื่องราว Unseen กันต่อได้อีกที่ twitter : @BlogLao_Unseen |
ดอกบัวมีกี่ชนิด รู้จักสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีในไทย
บัว เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง และจัดว่าเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ ก้านดอกจะยาวมีหนามและชูดอกเหนือน้ำ กลีบดอกเรียงซ้อนหลายชั้นและมีหลากหลายสี เป็นดอกไม้ที่มีความผูกพันกับคนไทยมาอย่างช้านาน เพราะในทางพุทธศาสนาก็เปรียบดอกบัวเหมือนความบริสุทธิ์และความศรัทธา จึงทำให้ชาวพุทธนิยมนำดอกบัวมาถวายพระ รวมถึงใช้ในการไหว้บูชาพระด้วย ทำให้หลายๆ บ้านนิยมปลูกเลี้ยงบัว เพราะสามารถปลูกได้ทั้งในอ่างและในสระ ทั้งยังเป็นดอกไม้มงคลปลูกในบ้านได้อีกด้วย แล้วดอกบัวมีกี่ชนิด ? ซึ่งชนิดของบัวที่มีในไทยนั้น สามารถแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- สกุลเนลุมโบ (Nelumbo) หรือ ปทุมชาติ
- สกุลนิมเฟียร์ (Nymphaea) หรือ อุบลชาติ
- สกุลวิกตอเรีย (Victoria) หรือ บัววิกตอเรีย
ซึ่งในแต่ละสกุลนั้น สามารถจำแนกได้หลายชนิด และดอกบัวมีกี่ชนิดที่พบได้ในไทย แบ่งได้เป็น 6 ชนิด ดังนี้
-
บัวหลวง
จัดว่าอยู่ในสกุลปทุมชาติ มีดอกและใบชูขึ้นเหนือน้ำ ใบมีขนาดใหญ่ สีเขียว และค่อนข้างกลม ดอกจะมีทั้งแบบดอกซ้อนและไม่ซ้อน และพบได้ 4 สี ได้แก่ สีขาว สีแดง สีชมพู และสีเหลือง ก้านจะมีลักษณะแข็ง มีลักษณะเด่นชัดคือ ผิวหน้าของใบจะเหมือนกับมีขี้ผึ้งเคลือบอยู่ทำให้น้ำไม่เกาะ เป็นบัวที่เรานิยมนำมาไหว้พระ หรือจัดแจกันบูชาพระ และนำรากของมันมาทำเป็นอาหาร
การปลูก
พื้นที่ปลูกควรเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ใกล้แหล่งน้ำ ควรใช้ดินร่วนหรือดินเหนียว ซึ่งการปลูกจะแบ่งเป็น 2 วิธี คือ
- ปลูกในแปลงดินแห้ง
จะใช้การขุดหลุมให้ลึกลงไปประมาณ 15-20 ซม. แล้วฝังเหง้าบัวลงไป โดยให้เหลือส่วนที่เป็นตาบัวอยู่เหนือผิวดินประมาณ 1-2 ข้อ จากนั้นจึงทำการปล่อยน้ำเข้าแปลง
- ปลูกในแปลงดินโคลน
วิธีนี้นิยมเพราะปลูกง่ายและสะดวกกว่าวิธีแรก ทำได้โดยการปล่อยน้ำเข้าแปลงเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ดินเป็นโคลนตม จากนั้นนำเหง้าบัวลงแปลง โดยให้เหลือส่วนเหนือผิวดินประมาณ 1-2 ข้อ และทำการปล่อยน้ำให้ท่วมแปลง
ShopBack Tips : บัวหลวงคือบัวที่เรานิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด เพราะจะนำมาไหว้พระ จึงทำให้ดอกบัวกับพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด และเราก็คงจะเคยได้ยินถึงการเปรียบเทียบดอกบัวกับมนุษย์ที่ว่า บัวมี 4 เหล่า คือ บัวก้นบึ้ง บัวใต้น้ำ บัวปริ่มน้ำ และบัวพ้นน้ำ เปรียบได้ง่ายๆ คือ - บัวก้นบึ้ง คือ คนที่ไม่รู้ผิดหรือชอบ ไม่เกรงกลัวในบาปกรรม - บัวใต้น้ำ คือ คนที่ยังรู้ผิดชอบชั่วดีบ้าง มีศีลบ้าง - บัวปริ่มน้ำ คือ คนที่มีศีล รู้จักการรักษาศีล 5 ให้คงไว้ ทำได้ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง แต่พยายามหมั่นฝึกฝน - บัวพ้นน้ำ คือ ผู้รักษาศีล 5 ได้ครบถ้วน และไม่ละเลยการทำความดี ถือว่าเป็นผู้ที่เจริญแล้ว หากใครอยากปลูกบัวหลวงเองบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากมัน สามารถหาซื้อเมล็ดบัวหลวงได้เลยที่ ช้อปปี้ และอย่าลืมช้อปผ่าน ShopBack ด้วยนะคะ เพื่อประหยัดได้อีก |
-
บัวฝรั่ง
บัวฝรั่งจัดอยู่ในสกุลปทุมชาติ มีลักษณะคล้ายบัวหลวง สามารถเจริญเติบโตได้โดยสร้างลำต้นหรือเหง้า ใบมีทั้งขอบเรียบและขอบใบจักร ใบกลมสวย รูปทรงของดอกสวยงาม มีหลายสีทั้ง สีขาว สีแดง สีชมพู สีเหลือง ตัวดอกจะลอยแตะผิวน้ำ หรือชูเหนือน้ำเล็กน้อย บัวฝรั่งจะนิยมใช้เป็นไม้ประดับมากกว่าเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่น
-
บัวผัน บัวเผื่อน
เป็นบัวที่อยู่ในสกุลอุบลชาติ มักขึ้นตามทุ่งนา หนองน้ำ ดอกมีกลิ่นหอม และบานตอนเช้า หุบตอนเย็น ใบเป็นรูปไข่จนถึงกลม ตัวดอกมีหลายกลีบและมีหลายสี เป็นไม้ประดับดอกสีม่วงชนิดหนึ่ง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ส่วนหัวนิยมนำมาทำเป็นยา การขยายพันธุ์จะใช้วีธีการเพาะเมล็ด
การปลูก
บัวทั้งสองชนิดนี้ สามารถปลูกในกระถางได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- เตรียมภาชนะปลูก เช่น กระถางปากกว้าง หรือกระถางทรงอ่าง ใส่ปุ๋ยรองลงไป
- ใส่ดินลงไปเกือบเต็มภาชนะ และใช้น้ำลูบหน้าดินให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- หากเป็นบัวผัน บัวเผื่อน ให้ปลูกกลางภาชนะ ส่วนบัวฝรั่งจะปลูกริมภาชนะ
- นำส่วนที่เป็นหัวบัวหรือรากปลูกลงในดิน แล้วกดดินรอบๆ ให้แน่น
- วางบัวในอ่างให้ใบพ้นน้ำ 7-10 วัน จากนั้นบัวจะเริ่มแตกใบใหม่ให้เห็น
-
บัวสาย
บัวสาย จัดอยู่ในสกุลอุบลชาติ เป็นบัวที่อยู่ตามหนองบึง สามารถขึ้นอยู่ในระดับน้ำลึกๆ ได้ เป็นบัวก้านอ่อนที่มีก้านใบและดอกยาว ใบมีลักษณะมน ขอบใบจักร ก้านใบจะไม่สามารถส่งใบให้ชูพ้นน้ำได้สูง ส่วนใบมักจะลอยบนผิวน้ำ ดอกมีหลายสี คือ สีบานเย็น สีขาว และสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกจะบานกลางคืน และหุบตอนเช้า ส่วนหัวนิยมเอามาทำเป็นยา และนิยมเอาก้านมาทำอาหาร เช่น แกงสายบัว ส่วนดอกก็ใช้เป็นไม้ประดับ
การปลูก
บัวสายสามารถปลูกในกระถางได้ ซึ่งนิยมปลูกกัน 2 แบบ คือ
- ปลูกโดยใช้กระถาง 2 ใบ โดยนำกระถางวางซ้อนกันโดยใช้ใบใหญ่ 1 ใบ และใบเล็ก 1 ใบ จากนั้นใส่ดินผสมหรือดินเหนียวลงไป ตามด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และใส่บัว ก่อนจะค่อยๆ ใส่น้ำลงไปในกระถางในระดับที่เหมาะสม การปลูกวิธีนี้สามารถเปลี่ยนกระถางบัว และเคลื่อนย้ายได้สะดวก
- ปลูกโดยใช้กระถางใบเดียว โดยนำดินผสมปุ๋ยอินทรีย์ คือใช้ดินผสมหรือดินเหนียว แล้วใส่ดินปลูกลงในกระถางประมาณครึ่งนึงของกระถาง จากนั้นนำบัวลงไปปลูก หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ใส่น้ำลงไปให้อยู่ในระดับเดียวกับขอบกระถาง
ShopBack Tips : แม้ว่าบัวจะเป็นพืชน้ำ แต่ก็ต้องการแสงแดดจัดอย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงอ่างน้ำที่จะปลูกบัวควรมีความลึกอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อให้บัวเจริญเติบโตได้เต็มที่ และน้ำต้องเป็นน้ำที่สะอาด มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-8.0 อุณหภูมิควรไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส และควรใส่ปุ๋ยสำหรับบัวโดยเฉพาะ หรือปุ๋ยสูตร 16-16-16 ก็ได้ ประมาณ 1-2 อาทิตย์ครั้ง บัวสามารถปลูกลงอ่างหรือกระถางได้ ไม่จำเป็นต้องลงบ่อหรือสระเสมอไป หาซื้ออ่างบัวสวยๆ ได้เลยที่ ลาซาด้า เพราะมีให้เลือกเยอะแถมยังมีดีลเด็ดอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญต้องช้อปผ่าน ShopBack ด้วย เพื่อประหยัดได้มากกว่า |
-
บัวจงกลนี

ดอกบัวมีกี่ชนิด ? นี่คืออีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในสกุลอุบลชาติ เป็นบัวเชื้อชาติและสัญชาติไทยที่มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น พบใหม่ในธรรมชาติคาดว่าเกิดจากการแปลงพันธุ์ ใบจะลอยอยู่แตะผิวน้ำ ขอบใบหยัก มีรูปร่างรีคล้ายหัวใจ หน้าใบเป็นสีเขียว ส่วนหลังใบเป็นสีม่วงแดง ดอกจะลอยแตะผิวน้ำเล็กน้อย มีสีขาวอมชมพู กลีบเรียงซ้อนกันแน่น เป็นบัวที่มีกลีบดอกมากที่สุดในโลก และมีลักษณะพิเศษ คือ บานแล้วไม่หุบ เป็นบัวที่ชอบอยู่กลางแจ้งและที่น้ำลึก นิยมนำมาเป็นไม้ประดับ ส่วนหัวนำไปทำเป็นยา
การปลูก
สามารถปลูกได้ทั้งในสระและในบ่อ โดยจะเจริญเติบโตได้ดีในวัสดุปลูกที่มีความลึกไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร และมีขั้นตอนในการปลูก ดังนี้
- ใส่วัสดุปลูกหนาประมาณ 2/3 ส่วนของภาชนะปลูก และอัดวัสดุปลูกให้แน่น
- กลบหน้าด้วยดินเหนียว อัดให้แน่น
- นำต้นหรือหน่อลงปลูก
- ใส่น้ำสะอาดลงไปเป็นอันเรียบร้อย
-
บัววิกตอเรีย หรือ บัวกระด้ง
เป็นบัวที่อยู่ในสกุลวิกตอเรีย เป็นบัวขนาดใหญ่ที่สุด ขอบใบจะยกตัวขึ้นคล้ายกระด้ง ลอยบนผิวน้ำ ดอกมีกลิ่นหอมแรง มีสีขาวและสีชมพู จะบานตอนกลางคืน และหุบในตอนเช้า เป็นบัวที่ต้องใช้พื้นที่ปลูกมาก เพราะเป็นใบเดี่ยวมีขนาดใหญ่มากประมาณ 6 ฟุต ก้านใบและก้านนอกนิยมนำมาทำอาหาร ส่วนต้นและดอกจะเป็นไม้ประดับ
การปลูก
การขยายพันธุ์บัวกระด้งจะใช้วิธีเพาะเมล็ดเท่านั้น จะไม่ใช้วิธีการแยกเหง้าหรือหน่อเหมือนบัวพันธุ์อื่นๆ เพราะบัวกระด้งไม่มีการแตกหัวหรือแยกเหง้า และนิยมปลูกลงสระ เพราะง่ายที่สุด และประหยัด สามารถทำได้ ดังนี้
- นำเมล็ดที่แก่จัดแล้วมาหว่านลงบ่อ ให้ระยะห่างกันประมาณ 5-10 เมตร ต่อ 3 เมล็ด
- การปลูกบัวชนิดนี้ สภาพดินและน้ำในบ่อสำคัญที่สุด โดยดินต้องไม่เป็นกรด และน้ำต้องมีค่าออกซิเจนละลายในน้ำไม่ควรต่ำกว่า 4 มิลลิกรัม/ลิตร
ShopBack Tips : ดอกบัวมีกี่ชนิด จากชนิดทั้งหมดที่บอกไป บัวหลวงนอกจากจะนิยมที่สุดแล้ว ยังนับเป็นบัวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดอีกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ในการปลูกคือ ปลูกเพื่อตัดดอกตูมเพื่อนำไปใช้บูชาพระ และปลูกเพื่อเก็บเมล็ด ที่สามารถใช้ประกอบอาหารทั้งคาวหวานได้ นอกจากนี้ส่วนอื่นๆ ของบัวหลวงยังสามารถใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ด้วย เช่น ใบแห้งใช้ทำยากันยุง หรือต้มเป็นยาบำรุงหัวใจ, ใบสด ใช้ห่ออาหาร และไหลหรือราก สามารถนำมาเชื่อมทำเป็นอาหารหวานได้ และถ้าใครชอบกินรากบัว หรือชอบเอามาทำอาหารทำขนม ไม่ต้องไปตัดรากบัวเอง เพราะที่ เจดี เซ็นทรัล เขามีรากบัวแช่แข็งจำหน่าย ให้เราซื้อมาเก็บไว้ทำอาหารได้อย่างง่ายๆ อย่าลืมช้อปผ่าน ShopBack เพื่อประหยัดได้อีกด้วยนะคะ |
ก็ได้รู้จักกันไปแล้วนะคะว่าดอกบัวมีกี่ชนิด และมีอะไรบ้าง รวมถึงประโยชน์ต่างๆ ของมัน ซึ่งดอกบัวนั้นมีประโยชน์มากมาย รวมถึงให้ความสวยงาม เป็นไม้ประดับได้อีกด้วย ใครที่ชอบชนิดของบัวและอยากปลูกไว้ในบ้านก็ทำได้ หรือจะเลือกเป็นไม้มงคลปลูกแล้วรวยก็ไม่เลว เพราะจะทำให้บ้านเรามีความร่มรื่นน่าอยู่ และสวยงามยิ่งขึ้นค่ะ
ที่มาอ้างอิง : lotus.rmutt.ac.th, baanlaesuan.com, bagindesign.com, technologychaoban.com
Recent posts
ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจ
Blog เล่า เรื่องเล่า UNSEEN ที่ฟังได้เพลินๆ ทุกที่ ทุกเวลา ♡
อัพเดตความคุ้มได้ที่นี่ !
ร้านค้าใน ShopBack ที่คุณน่าจะชอบ :)
ห้ามพลาดแคมเปญใน ShopBack ล่าสุด
– เทศกาล 12.12 Big Sale