เปิดวาร์ป 9 ที่เที่ยวใหม่ ในไทย ที่สายเที่ยวอินเทรนด์ต้องไม่พลาด

ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ในไทย ไปสำรวจก่อนใครรับปี 2020 ต้องปักหมุดเตรียมอ่านบทความนี้กันให้ดี เพราะ ShopBack Blog รวม 9 ที่เที่ยวเปิดใหม่มาฝาก รับรองว่าไปแล้วได้ร้องว้าวแบบ Unseen แน่นอน

อย่างที่เรารู้กันดีกว่าสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายร้อยหลายพันแห่ง แต่เข้าปีใหม่ทั้งทีหลายคนก็อยากไปสัมผัสกับที่เที่ยวใหม่ที่ยังไม่ฮิต ยังไม่ฮอตติดลมกันบ้าง

โดยในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมามีที่เที่ยวเปิดใหม่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละที่นั่นก็สวย มีเสน่ห์ แถมมีกิจกรรมสนุกๆ รอให้เราไปสำรวจอยู่เพียบ! ถ้าใครพร้อมแล้วมาออกเดินทางไปกับ ShopBack Blog กันเลยดีกว่า

สำรวจ 9 ที่เที่ยวใหม่ทั่วไทย ไปก่อนรับรองว้าว!

1. พิพิธภัณฑ์พระราม 9 ปทุมธานี

ใครบอกว่าการไปพิพิธภัณฑ์ต้องน่าเบื่อ? เพราะพิพิธภัณฑ์พระราม 9 ซึ่งเป็นที่เที่ยวเปิดใหม่ใกล้กรุงเทพมหานครแห่งนี้จะมาทำให้การไปพิพิธภัณฑ์ของคุณสนุกขึ้น!

ภายในแบ่งโซนจัดนิทรรศการออกเป็น 6 โซน คือ โซนหอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โซนโลกและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต โซนระบบนิเวศและความหลากหลาย โซนการจัดการทรัพยากรดิน โซนระบบการจัดการทรัพยากรน้ำ และโซนการจัดการทรัพยากรน้ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ในอนาคตทางพิพิธภัณฑ์ยังมีแผนจัดนิทรรศการหมุนเวียนอีกด้วย

ที่ตั้ง : เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่และครู-อาจารย์  100 บาท / นักเรียนนักศึกษาและผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี

เวลาทำการ : วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.30 – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)

2. บ่อน้ำเดือด ลพบุรี

เปิดแผนที่เตรียมเช็กอินบลูลากูนเมืองไทยที่บ่อน้ำเดือด จังหวัดลพบุรี แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง ด้วยบรรยากาศของน้ำสวยสีฟ้าใสทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่าเป็น “วังเวียงเมืองไทย” เลยล่ะ

สาเหตุที่เราเรียกสระแห่งนี้ว่าบ่อน้ำเดือดไม่ใช่เพราะน้ำร้อนจนเดือดอย่างที่คิดนะคะ แต่เป็นเพราะมีตาน้ำและน้ำยังคงผุดขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติจนดูคล้ายน้ำที่กำลังเดือดอยู่

และเนื่องจากตาน้ำธรรมชาตินี่เองที่ทำให้น้ำในสระทั้งใส ทั้งสวย มีสีฟ้าธรรมชาติจนอยากทอดตัวลงไปนอนเล่นบนผิวน้ำ ผสมผสานกับป่าไม้ร่มรื่นที่อยู่รอบๆ ทำให้ที่นี่เปรียบเหมือนสวรรค์ของคนรักการเที่ยวเลยค่ะ

แต่เดี๋ยวก่อน! สำหรับใครที่อยากลงเล่นน้ำตอนนี้อาจจะต้องผิดหวังเพราะทางตำบลน้ำสุดอนุญาตให้เราแช่ขาสบายๆ และถ่ายรูปเล่นเท่านั้น เพราะทางตำบลยังดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เหมาะสมอยู่ แต่รับรองว่าอีกไม่นานได้เล่นน้ำใสๆ สวยๆ ไม่ต้องไปไกลถึงวังเวียงแล้วจ้า

ที่ตั้ง : ข้างวัดบ่อน้ำเดือด ต.น้ำสุด อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

ราคาเข้าชม : เข้าชมฟรี

เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวันไม่มีเวลาทำการ แต่ไม่ควรไปเวลาเย็นหรือกลางคืน

3. บานาน่าฟาร์ม กาญจนบุรี

ใครอยากมาลองเช็กอินที่เที่ยวใหม่ไม่ไกลกรุงเทพ ต้องมาบานาน่าฟาร์ม จังหวัดกาญจนบุรี เพราะทีนี้เต็มไปด้วยสวนกล้วยน้ำว้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา แถมยังมีไฮไลท์อย่างทางเดินสกายวอล์คเหนือสวนอีกด้วย

บานาน่าฟาร์มมีจุดเริ่มต้นมาจากโรงงานผลิตกล้วยทอดกรอบ OTOP จนพัฒนามาเป็นแหล่งท่องเที่ยวผสมผสานศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรรูปแบบใหม่ในที่สุด มีทั้งพื้นที่ดูงานและศึกษาความรู้ทางการเกษตรและพื้นที่อีกส่วนที่เปิดเป็นร้านอาหารในฟาร์ม นำผลผลิตปลอดสารพิษมาปรับเป็นเมนูประจำร้านทั้งของกินเล่น เค้ก ไอศกรีม และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่างบานาน่าสมูทตี้

ส่วนใครเป็นสายถ่ายรูปรับรองไม่ผิดหวังเพราะที่นี่มีทั้งร่องสวน เถียงนา และไฮไลท์อย่างสกายวอล์คเหนือสวนกล้วย ได้มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ไม่ซ้ำใครแน่นอนค่ะ

ที่ตั้ง : ทางหลวงสาย 324 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

ราคาเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีค่าน้ำและอาหารตามรายการที่เราสั่ง

เวลาทำการ : วันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 8.00 – 20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

4. ไร่ชมอิน เขื่อนกระเสียว สุพรรณบุรี

ที่เที่ยวใหม่และลานกางเต็นท์สำหรับคนชอบเที่ยวฟีลแอดเวนเจอร์นิดๆ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศนอนดูดาว เคล้าสายลมและสายหมอกยามเช้า หรืออยากชมพระอาทิตย์ตกอย่างใกล้ชิดจริงๆ ต้องมาที่นี่ค่ะ

ไร่ชมอิน อำเภอด่านช้าง เป็นที่เที่ยวใหม่ที่เปิดให้บริการรูปแบบลานกางเกงเต็นท์ให้เช่าพื้นที่ หรือใครจะเช่าเต็นท์และอุปกรณ์แคมป์ปิ้งอื่นจากทางไร่ก็ได้ บรรยากาศเป็นลานโล่งวิวสวย ธรรมชาติบริสุทธิ์ ลมพัดเย็นสบายตลอดวัน

แถมยังมีกิจกรรมนำเที่ยวรอบเขื่อนกระเสียว เดินเล่น มีที่ปั่นจักรยานชมสันเขื่อน ปิดท้ายด้วยการแวะไหว้พระวัดทุ่งใหญ่ ส่วนใครอยากลงเล่นน้ำที่หาดทรายท้ายเขื่อนก็สนุกได้แบบยกแก๊งค์

ที่ตั้ง : ไร่ชมอิน เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

ราคาเข้าชม : นำเต็นท์มาเอง 50 บาทต่อคน / ค่าเช่าเต็นท์ขนาด 2-3 คน เต็นท์ละ 300 บาท / ค่าเช่าเต็นท์ขนาด 6-8 คน เต็นท์ละ 800 บาท

เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 11.00 – 21.00 น.

5. ฮอลลีวูดบ้านนา มนต์รักบางพุทรา ฉะเชิงเทรา

อีกหนึ่งที่เที่ยวใหม่ขับรถไปเองได้ไม่ไกลกรุงเทพฯ ใครอยากแชะภาพฟีลบ้านนาบ้านไร่สไตล์ลูกทุ่งหน่อยๆ ต้องมาที่นี่เลยค่ะกับฮอลลีวูดบ้านนา มนต์รักบางพุทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

เส้นทางท่องเที่ยวแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้านที่ร่วมด้วยช่วยกันปรับเปลี่ยนทิวทัศน์และการท่องเที่ยวในชุมชนให้น่าสนใจขึ้น เราสามารถมาเรียนรู้ธรรมชาติ สัมผัสวิถีชุมชน ชิมของอร่อยสไตล์ท้องถิ่น แถมยังได้เที่ยวแบบไม่เบื่อเพราะทั้ง 4 หมู่บ้านก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป แต่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือการล่องเรือแจวชมวิถีชาวบ้านริมคลอง พร้อมเก็บภาพสวยๆ จากบนเรือค่ะ

ที่ตั้ง : 17 หมู่ 8 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา

ราคาเข้าชม : สอบถามเพิ่มเติมที่ ฮอลลีวูดบ้านนา

เวลาทำการ : วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 18.00 น.

6. ฟลาวเวอร์แลนด์ พัทยา

แหล่งท่องเที่ยวสไตล์สวนดอกไม้ยังมาแรง ส่วนใครอยากชมที่เที่ยวใหม่บรรยากาศดอกไม้หวานๆ บานสะพรั่ง แถมยังเป็นพรรณไม้เมืองหนาวก็ต้องที่นี่เลย สายหวานต้องมา!

ด้วยพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ เนรมิตให้กลายเป็นสวนดอกไม้และต้นไม้เขียวชอุ่มนานาพรรณ ใครชอบดอกไม้เมืองหนาวที่หาชมยากไม่ควรพลาดนะคะ และที่สำคัญสาวๆ คนไหนชอบถ่ายรูปลงโซเชียลที่ฟลาวเวอร์แลนด์แห่งนี้มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก!

ไม่ว่าจะเป็นโดมดอกไม้หรือทุ่งดอกดาวเรือง งานนี้ขอบอกว่าเตรียม Memory card ไปให้พร้อมเพราะถ่ายรูปกันเพลินจนเม็มเต็มแน่ๆ

ที่ตั้ง : 199/9 ม.4 ถ.ประภานิมิต อ.หนองปรือ พัทยา

ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ 200 บาท / เด็ก 100 บาท / เด็กเล็กส่วนสูงไม่เกิน 80 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

เวลาทำการ : วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 20.00 น.

7. ฮิโนกิแลนด์ เชียงใหม่

เป็นข่าวฮือฮาสักพักเมื่อตอนเปิดตัวกับหมู่บ้านไม้หอมฮิโนกิแลนด์ ที่เที่ยวใหม่บรรยากาศราวกับยกญี่ปุ่นมาไว้ที่ไทย เป็นอาณาจักรของที่เที่ยวที่สร้างด้วยไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยเลยค่ะ

ขอบอกว่าใครมาที่นี่อาจต้องตั้งตัวกันนิดนึง เพราะเรายังอยู่ที่ไทยนะคะแต่บรรยากาศของเค้าเหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้เชียงใหม่! ไม่ว่าจะเป็นเสาโทริอิ โคมแดงยักษ์ราวกับอยู่วัดอาซากุสะ และไฮไลท์เด็ดที่ห้ามพลาดอย่างปราสาทฮิโนกิสูง 4 ชั้นที่สร้างจากไม้หอมทั้งหลัง! ใครยังสัมผัสฟีลญี่ปุ่นไม่พอที่นี่เค้ามีให้เช่าชุดยูกาตะเดินเที่ยวด้วยนะ

ส่วนใครเดินเที่ยวเก็บรูปสวยจนเหนื่อยแล้วฮิโนกิแลนด์ก็ยังมีคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นและร้านขายของที่ระลึกไว้ให้บริการด้วยค่ะ

ที่ตั้ง : 3/1 หมู่ 5 ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่ 180 บาท / เด็ก 50 บาท / เด็กเล็กสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา เวลา 08.00 – 17.00 น.

8. แพไม้ไผ่ริมแม่น้ำตาปี สุราษฎร์ธานี

ที่เที่ยวใหม่สไตล์เรียบง่ายแต่ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่อยากเดินทางมาพักผ่อนสบายๆ เล่นน้ำที่แม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

แพไม้ไผ่แห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของชาวบ้านอำเภอเคียนซาที่ช่วยกันต่อแพไม้ไผ่ยาวกว่า 200 เมตร ให้นักเดินทางแวะมาพักผ่อน นั่งเล่น เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ของแม่น้ำตาปี

ส่วนใครอยากกระโดดน้ำเล่นก็ทำได้เพราะเป็นจุดที่ลงเล่นน้ำได้ เหมาะกับคนที่มองหาที่แวะพัก เล่นน้ำ นอนกินลมชมวิวริมทางก่อนเดินทางเที่ยวต่อ ถือเป็นจุดเติมพลังให้คุณกลับมาแบตเต็มอีกครั้งก่อนเดินทางค่ะ

ที่ตั้ง : ถ.สุขาภิบาล ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี

ราคาเข้าชม : ฟรี ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาทำการ : ไม่มีเวลาทำการ

9. นาโปแก พัทลุง

หนึ่งในที่เที่ยวใหม่มาแรงสไตล์คาเฟ่กลางทุ่งนา แต่ความพิเศษของที่นี่คือเป็นสถานที่เรียนรู้วิถีชาวนาอย่างใกล้ชิด!

นาโปแกเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์มีจุดถ่ายรูปสวยหลายมุมทั้งสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวไปกลางทุ่งนารวมถึงยุ้งฉางสูงที่เป็นจุดไฮไลท์ นอกจากนี้เรายังจะได้ชมวิถีชาวบ้านทั้งการเกี่ยวข้าว ไถนา ดำนา หรือการขุดบ่อปลาแบบใกล้ๆ หรือจะลงไปร่วมกิจกรรมก็ยังได้ ใครชอบเที่ยวแบบธรรมชาติและชอบร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับคนในท้องถิ่นต้องห้ามพลาดค่ะ

ที่ตั้ง : 456 หมู่ 6 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

ราคาเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 19.00 น.

แหม! เห็นแบบนี้แล้ว ShopBack Blog ก็อยากเก็บกระเป๋าไปเช็กอินที่เที่ยวใหม่ในไทยบ้างเหมือนกันนะคะ เพราะแต่ละที่ทั้งมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้กันเลย ส่วนเพื่อนๆ คนไหนได้ไปเที่ยวกันมาแล้วอย่าลืมมาแชร์รูป แชร์เรื่องราวประทับใจให้เราได้รู้กันบ้างนะคะ

Featured Image Credit : FB/bannhinoki